โรงพยาบาล ทีวายพี
ถุงใต้ตา
ถุงใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาลึก ปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย แม้จะนอนครบ 8 ชั่วโมงก็ตาม บางครั้งยังทำให้ดวงตาดูโตกว่าเดิมหรือดูเศร้า ไม่สดใส ส่งผลต่อความมั่นใจเวลาถ่ายรูป มองใกล้หรือไกลก็ดูโทรม โดยเฉพาะในยุคที่แสงและกล้องหน้ามีบทบาทสำคัญnคุณหมอแนะนำการเติมเต็ม “ฟิลเลอร์ใต้ตา” ทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาให้ดูเรียบเนียน เหมาะสำหรับคนที่อยากให้ใบหน้าดูสดชื่น สดใส มีเสน่ห์ และอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ตัดถุงใต้ตา คืออะไร ?
การตัดถุงใต้ตา หรือที่เรียกเต็ม ๆ ว่า การผ่าตัดเอาไขมันถุงใต้ตาออก (Lower Blepharoplasty) คือหัตถการทางศัลยกรรมที่ช่วยลดความบวมตุ่ยหรือป่องของใต้ตา ซึ่งมักเกิดจากไขมันสะสมหรือหย่อนคล้อยตามอายุที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่จากพันธุกรรม
จุดประสงค์ของการตัดถุงใต้ตา คืออะไร ?
การตัดถุงใต้ตา หรือการผ่าตัดลดถุงไขมันใต้ตา เป็นหัตถการที่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยและความบวมตุ่ยบริเวณใต้ตา ซึ่งมักทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุเกินจริง โดยมีจุดประสงค์หลัก คือ กำจัดไขมันส่วนเกิน หรือจัดเรียงไขมันใหม่ให้ผิวใต้ตาเรียบเนียน ลดความป่องที่ทำให้ใบหน้าดูไม่สดชื่น ปรับผิวหนังใต้ตาให้กระชับ ลดความหย่อนคล้อยที่เกิดจากอายุหรือพันธุกรรม ทำให้ผิวบริเวณนี้กลับมาตึงกระชับขึ้น ฟื้นฟูความสดใสให้ใบหน้า ช่วยให้ดวงตาดูมีชีวิตชีวา ไม่หมองหรืออ่อนล้า แม้ในวันที่พักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ลดเงาและร่องลึกใต้ตาที่มักทำให้ใบหน้าดูโทรมหรือเศร้า ช่วยให้ผิวใต้ตาดูสม่ำเสมอ เรียบเนียนขึ้น
การตัดถุงใต้ตา เหมาะกับใคร ?
การตัดถุงใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาถุงใต้ตาเด่นชัดจากไขมันสะสม ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้าและไม่สดใส แม้จะพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้วก็ตาม บางคนอาจมีร่องลึกใต้ตา ซึ่งเกิดจากการกองตัวของไขมันบริเวณใต้ตา จนทำให้เกิดเงาและความไม่สม่ำเสมอของผิวในบริเวณนั้น หัตถการนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ถาวรหรือกึ่งถาวร มากกว่าทางเลือกชั่วคราวอย่างการฉีดฟิลเลอร์ โดยเฉพาะในกรณีที่ปัญหาเกิดจากโครงสร้างภายในมากกว่าผิวด้านนอก การตัดถุงใต้ตาจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความงามและความมั่นใจในระยะยาว
ข้อดีของการตัดถุงใต้ตา
การตัดถุงใต้ตา มีข้อดีที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะในด้านความงามที่จะช่วยลดอาการหย่อนคล้อยของเปลือกตาล่าง กำจัดถุงใต้ตาที่บวมหรือโป่งออกมา ลดเส้นริ้วรอยและรอยย่น ทำให้ใบหน้าดูสดใส อ่อนเยาว์กว่าวัย และเพิ่มความมั่นใจในการแต่งหน้า
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดถุงใต้ตา
4 ข้อ ควรรู้ การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดถุงใต้ตา
1. งดวิตามินและยาบางชนิด เช่น วิตามิน E, fish oil, แอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด เพื่อลดโอกาสช้ำหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง
2. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมงก่อนทำเพราะอาจรบกวนการฟื้นตัวของร่างกาย
3. พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเตรียมร่างกายให้สดชื่น ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่ และช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
4. แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรือใช้ยาอยู่ ช่น เบาหวาน ความดัน หรือภูมิแพ้ยา เพื่อปรับแผนการรักษาให้เหมาะสม และเพื่อหลีกเลี่ยงอาการแพ้หรือปฏิกิริยากับยา
การดูแลตัวเองหลังจากผ่าตัดถุงใต้ตา
6 ข้อ ควรรู้ การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดถุงใต้ตา
1. ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตา ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาในช่วง 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดบวม
2. หลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือสัมผัสแผล ป้องกันการติดเชื้อ ลดการอักเสบและบวมช้ำ ป้องกันแผลเปิดหรือเย็บหลุด หากแผลถูกกระทบกระเทือน อาจทำให้เนื้อเยื่อสมานผิดรูปหรือเกิดพังผืดในตำแหน่งที่ไม่ควรมี
3. งดแต่งหน้าและใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ผิวหนังที่กำลังฟื้นตัว
4. ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำแพทย์ ยาที่แพทย์จ่าย เช่น ยาฆ่าเชื้อหรือยาลดการอักเสบ จะช่วยลดอาการบวมแดง ป้องกันการอักเสบ และเร่งกระบวนการซ่อมแซมของผิวหนัง
5. ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน
6. งดออกกำลังกายหนัก ประมาณ 2 สัปดาห์ เหงื่อและความร้อนจากการออกกำลังกายอาจทำให้แผลระคายเคือง เกิดการอักเสบหรือมีเชื้อโรคสะสมที่บริเวณแผลได้