โรงพยาบาล ทีวายพี
ฟิลเลอร์คาง
คางสั้น คางตัด คางถอย ปัญหาที่อาจทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ดูกลม ไม่มีมิติ หรือทำให้กรอบหน้าดูไม่ชัด ส่งผลต่อความมั่นใจเวลาถ่ายรูปมุมข้าง มุมเผลอ หรือเวลายิ้ม โดยเฉพาะในยุคที่ทุกมุมกล้องมีความสำคัญ หมอแนะนำการปรับรูปหน้าด้วย “ฟิลเลอร์คาง” ทางเลือกยอดนิยมที่ช่วยเติมเต็มรูปคางให้ยาวรับกับใบหน้า เสริมมิติให้หน้าดูเรียวขึ้นทันที โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับคนที่อยากมีกรอบหน้าแบบ V-shape และหน้าดูละมุนคมชัดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์คาง คืออะไร ?
หลายคนอาจรู้สึกว่า “ทำไมหน้าดูกลม ๆ เบลอ ๆ ไม่มีมิติเลย” โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปมุมข้าง หรือเวลายิ้มทีไร เหมือนหน้าดูสั้น ไม่เป๊ะเหมือนคนอื่น… หนึ่งในสาเหตุหลักอาจมาจาก “คาง” นั่นเอง ฟิลเลอร์คาง คือวิธีการปรับรูปหน้าด้วยการฉีดสารเติมเต็มที่ชื่อว่า Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปบริเวณคาง เพื่อช่วยเสริมให้คางยาวขึ้น ดูเรียวขึ้น หรือมีทรงที่เข้ารูปกับใบหน้ามากขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น และที่สำคัญคือ เห็นผลทันทีหลังฉีด ใครที่มีปัญหา คางสั้น คางถอย คางตัด หรือกรอบหน้าไม่ชัด มักจะรู้สึกว่าหน้าดูกลม ไม่ค่อยมีมิติ ฟิลเลอร์คางจะช่วยให้รูปหน้าดูสมดุลขึ้น หน้าดูเรียวยาวแบบธรรมชาติ กรอบหน้าคมชัดขึ้นเหมือนมี V-shape เบา ๆ และยังช่วยให้หน้าดูละมุนขึ้นจากทุกมุม ไม่ว่าจะหน้าตรง มุมข้าง หรือมุมเผลอ อีกข้อดีของฟิลเลอร์คือ ถ้าไม่ชอบหรืออยากปรับทรง ก็สามารถแก้ไขได้ เพราะฟิลเลอร์ HA เป็นสารที่สลายเองได้ตามธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 12–18 เดือน (ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้และการดูแล)
ฟิลเลอร์คาง เหมาะกับใคร ?
หากคุณมีปัญหา คางสั้น คางถอย หรือกรอบหน้าไม่ชัด จนทำให้รูปหน้าดูกลม ไม่สมส่วน การฉีดฟิลเลอร์คางอาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับคุณ เพราะฟิลเลอร์คางคือการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับรูปคางให้ยาวขึ้น เรียวขึ้น เสริมให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น ไม่ว่าจะมองจากด้านหน้า หรือมุมข้าง ก็ช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้นในแบบ V-shape อย่างเป็นธรรมชาติเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน และเห็นผลทันทีหลังทำ
ผลลัพธ์หลังฉีดเป็นอย่างไร?
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง สิ่งที่หลายคนรู้สึกได้ทันทีคือ รูปหน้าดูสมส่วนขึ้นแบบชัดเจน คางที่เคยสั้นหรือถอย จะดูยาวรับกับกรอบหน้า เสริมให้หน้าดูเรียวขึ้นแบบ V-shape อย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังช่วยให้มุมหน้าดูละมุนขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายรูปหน้าตรง มุมข้าง หรือเผลอ ๆ ก็มั่นใจขึ้นทุกช็อต บางคนอาจถึงกับรู้สึกว่า “แค่ปรับคางนิดเดียว แต่หน้าดูเปลี่ยนเหมือนรีทัช!” ที่สำคัญคือ ไม่ต้องรอนาน เห็นผลทันทีหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้น ใช้ชีวิตได้ตามปกติ จะถ่ายรูป ออกงาน หรือไปเที่ยวต่อได้เลย เพราะคางที่ได้สัดส่วน จะช่วยขับให้ทั้งใบหน้าดูชัดเจนขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งแอป ไม่ต้องพึ่งแสง แค่เสริมจุดเล็ก ๆ ก็เปลี่ยนลุคได้ขนาดนี้
การดูแลตัวเองก่อน-หลังทำฟิลเลอร์คาง
การดูแลตัวเองก่อนเข้าทำฟิลเลอร์คาง
4 ข้อควรรู้ การดูแลตัวเองก่อนเข้าทำฟิลเลอร์คาง
1. งดวิตามินและยาบางชนิด เช่น วิตามิน E, fish oil, แอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด เพื่อลดโอกาสช้ำหรือเลือดออกใต้ผิวหนัง
2. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ อย่างน้อย 24–48 ชั่วโมงก่อนทำเพราะอาจรบกวนการฟื้นตัวของร่างกาย
3. พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อเตรียมร่างกายให้สดชื่น ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เต็มที่ และช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้ดี
4. ล้างหน้าให้สะอาด หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าก่อนเข้ารับบริการ
การดูแลตัวเองหลังทำฟิลเลอร์คาง
4 ข้อควรรู้ การดูแลตัวเองหลังทำฟิลเลอร์คาง
1. งดจับ กด นวด หรือบีบ ป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนตัว ไปอยู่ผิดตำแหน่ง ป้องกันการระคายเคือง บวมช้ำเพิ่มขึ้น
2. งดแอลกอฮอล์และบุหรี่ แอลกอฮอล์รบกวนการฟื้นตัวของผิว อาจทำให้เซ็ตตัวช้า บุหรี่เพิ่มโอกาสเกิดการอักเสบ หรือแผลหายช้า
3. งดแต่งหน้า-ล้างหน้าแรง ๆ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพราะเครื่องสำอางหรือมือที่ไม่สะอาด กระตุ้นให้เกิดการอักเสบหรือระคายเคือง ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้ หากเผลอกดหรือถูแรง ๆ
4. ดื่มน้ำเยอะ ๆ เติมความชุ่มชื้นให้ฟิลเลอร์ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์พองตัวพอดี ช่วยให้ฟิลเลอร์เซ็ตตัวดี กลืนเข้ากับชั้นผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ยืดอายุของฟิลเลอร์ ให้อยู่ได้นานขึ้น ไม่สลายเร็วเกินไป